ข้อต่อยาง

ข้อต่อยางและข้อต่อที่ยืดหยุ่น (Rubber Flexible Joint)

     ข้อต่อขยายยางเป็นตัวเชื่อมต่อที่ยืดหยุ่น ซึ่งผลิตจากอีลาสโตเมอร์และผ้าธรรมชาติและ/หรือสังเคราะห์ หากจำเป็น การเสริมแรงด้วยโลหะภายในที่ออกแบบมาเพื่อลดแรงดันในระบบท่ออันเนื่องมาจากการเคลื่อนที่ของความร้อนและการสั่นสะเทือนทางกล 

     มีการเลือกใช้วัสดุจำนวนมากตามพื้นที่การใช้งานของข้อต่อยางยืด ข้อต่อขยายยางยังมีข้อดีและข้อเสีย ระหว่างข้อต่อการขยายตัวของโลหะ      ข้อต่อยางขยายสามารถดูดซับการเคลื่อนไหวขนาดใหญ่ในระยะทางที่สั้นมาก ให้การเคลื่อนที่ทุกทิศทาง เช่น แนวแกน เชิงมุม แนวขวาง และการบิดเบี้ยวที่อาจเกิดขึ้นจากสภาวะภายนอก ยังช่วยลดแรงลม แรงกระแทก และการเคลื่อนที่ของคลื่นไหวสะเทือน

คุณสมบัติ

• ระบบขนส่งหรือระบบท่อที่มีของเหลว ของเหลวข้น หรือก๊าซภายใต้แรง
• ดันหรือสุญญากาศที่อุณหภูมิต่างกัน
  
• ลดการสั่นสะเทือน
  
• หน่วงการส่งเสียง
  
• การขึ้นรูปและการผลิตด้วยมือ
  
• มาตราฐาน (ความยาว)

การใช้งานที่แนะนำ

• ระบบปรับอากาศ ทำความร้อน และระบายอากาศในอาคารอุตสาหกรรมและเรือ
• สถานีผลิตไฟฟ้าส่วนกลางและส่วนเสริม ในอาคารอุตสาหกรรม โรงงาน เรือ และการใช้งานนอกชายฝั่ง
• โรงบำบัดน้ำเสีย, ปั๊ม ฯลฯ
• ระบบท่อสำหรับน้ำเย็นหรือน้ำร้อน
• ระบบระบายความร้อนสำหรับการผลิตไฟฟ้า
• อุตสาหกรรมแปรรูปไม้
• อุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษ
• น้ำป้อนและท่อระบายน้ำสำหรับงานประปา น้ำเสีย ระบบท่อสุขาภิบาล ฯลฯ
• ท่อส่งน้ำมันสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม อู่ต่อเรือ ฯลฯ

ข้อดี : ข้อต่อยางมีข้อได้เปรียบที่แตกต่างจากข้อต่อขยายที่เป็นโลหะ สำหรับการใช้งานที่มีฤทธิ์กัดกร่อน และการติดตั้งที่ต้องการอายุการใช้งานที่ยาวนาน รูปทรงป้องกันการสะสมของตะกอน สามารถติดตั้งบนหน้าแปลนแบบยกหน้าหรือแบบหน้าแบนได้

การเลือกวัสดุ : การเลือกวัสดุของข้อต่อขยายยางมีความแปรปรวนมากและขึ้นอยู่กับพารามิเตอร์ความดัน อุณหภูมิ ของเหลว ฯลฯ วัสดุทั่วไป ได้แก่ EPDM, EPDM Food Grade, Neoprene, Nitrile, Hypalon, Butyl, Viton และเมื่อรวมกับวัสดุเหล่านี้แล้ว ขึ้นอยู่กับพื้นที่การใช้งาน นอกจากนี้ เส้นผ่านศูนย์กลางของยางในและท่อนอกอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการออกแบบ

   วิธีการติดตั้งข้อต่อท่อยาง